เด้ง 'รอง ผอ.โรงเรียนดังโคราช' ตบหัวนร.ในคลิป ไปช่วยราชการ
นร.แกนนำ ถูกรองผอ.โรงเรียนตบหัวในคลิป มาลงบันทึกประจำวัน ยันไม่ต้องการเอาผิดใคร แต่เพื่อความปลอดภัย พร้อมเดินหน้าขอคำชี้แจงตามข้อเรียกร้อง ล่าสุดทางเขตการศึกษาฯ มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการแล้ว รายงานตัว จันทร์นี้...
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 22 ส.ค. 58 นายแมน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พร้อมมารดา ได้เข้าพบกับ ร.ต.ท.กิตติภากร ทาโธสง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีถูก รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ โรงเรียนเสิงสาง ทำร้ายด้วยการใช้ฝ่ามือตบที่ศีรษะถึง 4 ครั้ง หน้าเสาธง ในระหว่างที่กำลังพูดปลุกระดมกับกลุ่มนักเรียน ที่มีการรวมกลุ่มเรียกร้องให้ทางคณะผู้บริหาร ชี้แจงถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ตามที่มีคลิปแชร์ทั่วโลกออนไลน์ ที่ผ่านมานั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันตามความประสงค์ของผู้เสียหาย เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใดๆ กับทางคู่กรณีของนักเรียน แต่ได้ส่งตัวนักเรียนชายคนดังกล่าว ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเสิงสาง เพื่อที่จะนำมาประกอบการพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง
นักเรียนคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เริ่มจากที่ตนเองได้เริ่มทำคลิปวิดีโอ สอบถามเรื่องของอุปกรณ์การเรียนที่รัฐจัดสรรให้ เนื่องจากได้อุปกรณ์การเรียนไม่ตรงกับหนังสือคู่มือที่โรงเรียนแจกมา รวมถึงไม่ครบตามจำนวนเงินที่ทางกระทรวงศึกษาฯ จัดสรรมาให้ และไม่ครบภาคเรียน อีกทั้งยังมีการเรียกเก็บค่าเบ็ดเตล็ดที่สูงขึ้นกว่าปีการศึกษาก่อนๆ ค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกเหนือจากที่รัฐบาลอุดหนุน อาทิ ค่าเอสเอ็มเอส คนละ 200-300 บาทต่อปี
จากนั้นได้มีการโพสต์ผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว เพื่อสะท้อนคำถามผ่านโลกออนไลน์ไปยังคณะผู้บริหาร เมื่อประมาณต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ทางคณะผู้บริหารโรงเรียนได้เรียกเข้าไปพบส่วนตัว พร้อมทั้งขอร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว โดยไม่ยอมชี้แจงเหตุผลที่ตนเองตั้งคำถามไป รวมถึงมีการอ้างข้อกฎหมายต่างๆ นานา มาข่มขู่ แต่ตนเองเห็นว่ามันไม่มีคำตอบที่ชัดเจน รวมถึงไม่มีใครยอมออกมาชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครอง และนักเรียนได้รับทราบ จึงตัดสินใจทำคลิปวิดีโอ ที่มีลักษณะเนื้อหาคล้ายของเดิมออกเผยแพร่อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีทีท่าใดๆ จากทางโรงเรียน รวมถึงทางโรงเรียนยังมีการส่งคณะครูออกมาทำการสืบประวัติตัวเองถึงภูมิลำเนา จนสร้างความกังวลให้เกิดขึ้นกลับครอบครัวเป็นเวลานานเกือบ 1 เดือน ตนเองจึงตัดสินใจปรึกษาหารือกับเพื่อนนักเรียนที่มีความเห็นคล้ายกัน ซึ่งทุกๆ คนต่างเห็นพ้องด้วย ที่จะต้องมีการชี้แจงเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กระทั่งมีการลงมติร่วมกัน ที่จะรวมตัวเพื่อสอบถามปัญหาข้อสงสัยทุกอย่างกับทางคณะผู้บริหารโรงเรียนที่หน้าเสาธง
กระทั่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีนักเรียนเข้าร่วมมากกว่า 600 คน เลยเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แต่ไม่ต้องการที่จะแจ้งความเอาผิดใคร จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าตนเองจะได้รับอันตรายหรืออาจจะถูกกลั่นแกล้งในระหว่างการศึกษาเล่าเรียนอยู่ภายในโรงเรียน และยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองเคลื่อนไหวนั้นเป็นเรื่องที่ตนเองคิดขึ้นมาเอง ไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเพื่อนนักเรียน และไม่ต้องการที่จะทำร้าย ทำลาย หรือจ้องเอาผิดใคร ซึ่งยืนยันจะเดินหน้าขอคำชี้แจงตามข้อเรียกร้องที่ได้เรียกร้องมาต่อไป หากยังไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ก็อาจจะมีการรวมตัวเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับทางโรงเรียน เพื่อขอสัมภาษณ์คณะผู้บริหารโรงเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับได้รับการปฏิเสธจากครูเวรที่รับสาย โดยอ้างว่า เป็นวันหยุดราชการ และทางโรงเรียนไม่มีอำนาจให้ข้อมูลทุกๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ของผู้บริหารก็ไม่สามารถที่จะให้ได้ และได้พยายามติดต่อรองผู้บริหารคู่กรณี แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดภายในโรงเรียนเสิงสางนั้น ยังไม่มีใครยอมเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำยืนยันจากทาง นายวิลาศ ด้วงเงิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสาง ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ได้มีคำสั่งจากทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ให้รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการโรงเรียนเสิงสาง ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้ไปรายงานตัวในวันจันทร์ที่ 24 ส.ค. นี้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น