This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ถ้ายังไม่เคยลอง ห้ามพลาด ไอเดียเจ๋งๆ เทคนิคการถ่ายรูป




2

ใครที่ชอบถ่ายรูปอาจจะเคยใช้เทคนิคการใช้มุมใกล้และมุมไกลแบบนี้กันมาบ้างแล้ว ถ้าใครที่ยังไม่เคยลองถ่ายรูปด้วย เทคนิคการถ่ายรูป แบบนี้ก็ลองดูได้ ในช่วงแรกที่ลองเทคนิคแบบนี้รูปภาพที่ถ่ายออกมาอาจจะยังไม่ค่อยเนียนสมจริงเท่าไหร่ แต่ถ้าฝึกถ่ายบ่อยๆเราก็จะรู้มุมรู้จังหวะได้เอง แล้วก็จะถ่ายรูปได้อย่างสมจริงเหมือนกับตัวอย่างที่นำมาให้ดู ต่อไปการถ่ายรูปของคุณจะมีสีสันมากขึ้น จะได้มีรูปภาพที่เจ๋งๆ เพิ่มอยู่ใน Gallery ของมือถือคุณ  ยิ่งถ่ายกับเพื่อนๆเป็นกลุ่มแล้วยิ่งสนุกกันมากอย่างแน่นอน
1345

22 สถานที่ กระปู๋ โผล่มาจ๊ะเอ๋!! แบบไม่ตั้งใจ



ก็แล้วใครจะไปคาดคิดว่าในชีวิตประจำวันที่เราไปในสถานที่ต่างๆ จะดันมีบางสิ่งที่โผล่เข้ามาให้เราเห็นแล้วอดคิดไปในทางทะลึ่งไม่ได้  ก็ถ้าใครได้เห็นรูปภาพทั้ง 22 รูปนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่า เฮ้ย!! มันเหมือน กระปู๋ จริงๆด้วย บางรูปภาพก็มีความคล้ายโดยไม่ต้องจินตนาการมาก บางรูปภาพก็อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น  แต่บางรูปก็ต้องสังเกตให้ดีว่า กระปู๋ อยู่ตรงไหนหรืออาจจะต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยบ้างนิดหน่อย ซึ่งก็เป็นเรื่องขำๆที่ไม่คาดคิดเลยว่าสถานที่เหล่านี้จะมี กระปู๋ โผล่มาให้เราเห็นได้ด้วย
โคมไฟที่ห้อยเหนือศีรษะ1
ในจอตู้ ATM2
บนหนังสือพิมพ์3

ในปากเจ้ากระรอก6
ในสนามบิน7
เลโก้ของเล่น8
บนฝักข้าวโพด
9
โลโก้บริษัท
10
บนจานขนม11
ห่ออยู่รอบขาคุณ12
บนแปรงสีฟัน13
ในสระว่ายน้ำ14
บนเสื้อผ้าเด็ก15
บนป้ายลานจอดรถ16
บนกล่องพิซซ่า17

ในอาหารเช้า18
ในป่า19
ที่วางเทียน20
ในสวนสาธารณะ21
ในห้องน้ำ22

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

พระธาตุผาซ่อนแก้ว หลากคำร่ำลือใครได้ไปกราบ จะเจริญ ทำมาค้าขึ้น



พระธาตุผาซ่อนแก้ว หลากคำร่ำลือใครได้ไปกราบ จะเจริญ ทำมาค้าขึ้น
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
ช่วงหน้าฝน มีหมอกหนา ปกคลุมไปทั่วบริเวณ จึงทำให้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว มีทัศนียภาพที่สวยงาม เสมือนตัวเรา ล่องลอยอยู่บนสวรรค์ มองเห็นวิวพานอรามาแห่งหุบเขา ราวกับว่ายืนอยู่ในเทพนิยาย ชาวบ้านล่ำลือกันว่าถ้าใครได้ไปกราบ ครอบครัวจะเจอแต่สิ่งที่ดี ค้าขายร่ำรวย เป็นมงคลแก่ครอบครัว สาธุ
สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป
พระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ในนาม “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัด ในมงคลนามว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓  จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เมื่อ ๓๐  พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ตั้ง ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดย คุณภาวิณี และ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน ๒๕ ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม ๙๑ ไร่
พระธาตุผาซ่อนแก้ว
พระครูปลัดปารมี สุรยุทโธ และ พระครูใบฎีกาอำนาจ โอภาโส สองครูบาอาจารย์คู่บุญคู่บารมี ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัด สร้างเสนาสนะ กุฏิที่พักสงฆ์ อาคารปฎิบัติและบรรยายธรรม รวมถึงอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมเพื่อรองรับคณะผู้มีจิตศรัทธาจากทุกแห่งหนที่ หลั่งไหลกันเข้ามาอบรมภาวนาในแนวสติปัฎฐานสี่ แห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง  เป็นที่ปิติยินดียิ่งของครูบาอาจารย์กับเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ได้ร่วม แรงร่วมใจ สละทั้งแรงกาย แรงทรัพย์  พร้อมทั้งความวิริยะอุตสาหะ และ ความตั้งใจมั่นเพื่อให้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ปฏิบัติภาวนาสำหรับผู้มีจิตศรัทธาสืบต่อไป…

แชร์คลิป พนง.โรงแรมพัทยา ด่าไล่-ทำร้ายลูกค้าสาว



(25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงคลิปวิดีโอหนึ่งที่กำลังถูกแชร์ส่งต่อกันเป็นวงกว้าง อ้างว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง ลูกค้าสาว กับ พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา อีกทั้งยังมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายผู้หญิงอีกด้วย
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อคุณ Pitty Oommy ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวไม่ถึงนาทีลงในเพจเฟซบุ๊กเมืองพัทยา พร้อมกับระบุข้อความบรรยายเหตุการณ์ว่า...
"พอดีเดินผ่านหน้า.....โรงแรมแห่งหนึ่ง เห็น Reception ทำร้ายผู้หญิง.....เลยถ่ายคลิป เพราะคนในเหตุการณ์มีเยอะทั้งวินมอเตอร์ไซค์ 4-5คน เนื่องจากฟังอยู่ในเหตุการณ์ น้องผู้หญิงใช้ใบขับขี่ขึ้นโรงแรม แล้วไม่ให้น้องขึ้น และก็ใช้วาจาไม่สุภาพโดยอ้างว่างว่าออกไปพี่งานยุ่ง ก่อนจะผลักน้องออกมาจากโรงแรม ทั้งๆ ที่ใบขับขี่ใช้แทนพาสปอร์ตและบัตรประชาชนได้ กลับใช้คำพูดไม่สุภาพ นี่เหรอคะ งานบริการทางโรงแรม....? ช่วยๆ กันแชร์ด้วยนะคะ เป็นผู้ชายไม่สมควรอย่างยิ่ง"
สำหรับภาพเหตุการณ์ดังกล่าว เผยให้เห็น 2 พนักงานต้อนรับของโรงแรมแห่งหนึ่ง กำลังโต้เถียงกับหญิงสาวคนหนึ่ง บริเวณบันไดทางขึ้นโรงแรม เรื่องราวเริ่มบานปลายเมื่อพนักงานคนหนึ่งได้ใช้กำลังทำร้ายผู้หญิง และต่อว่าด่าทอต่างๆ นานา ทั้งยังพูดจาท้าทายให้คู่กรณีไปแจ้งความได้เลย
ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาพความรุนแรงที่ฝ่ายชายทำร้ายฝ่ายหญิง เป็นพฤติกรรมที่สังคมรับไม่ได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาด้วย
ขณะที่ทางทีมข่าว Sanook! News ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังระบุข้อเท็จจริงไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้หากต้องการดำเนินคดี มองว่าสามารถทำได้ เนื่องจากมีหลักฐานการทำร้ายชัดเจน ซึ่งทางตำรวจพร้อมให้เป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย

ลูกสาวแม่ค้าอาหารตามสั่ง..นั่งล้างจานแบบไม่ห่วงสวย



      วันนี้มีการแชร์ภาพดังกล่าวเป็นภาพสาวน้อยนั่งล้างจานแบบไม่ห่วงสวย และ ได้เห็นชาวเน็ตมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมากว่า สาวน้อยลูกกตัญญู ของแม่ค้าอาหารตามสั่ง ที่นั่งล้างจานแบบไม่สนใจ และ ห่วงสวยใดๆทั้งสิ้น ภาพดังกล่าวมีการพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก และ อยากรู้ที่มาว่าน้องเค้าคือใคร หรือ ใครรู้หรือเจอ. เจอร้านของน้องเค้าก็ช่วยอุดหนุนกันด้วยละกันน้า

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เงินเดือนอาชีพ ” นักบิน ” ได้เท่าไหร่!!! รู้แล้วอย่าเป็นลมนะจ๊ะ



นักบิน’ เป็นเหมือนหนึ่งอาชีพในฝันของใครหลายคนเลยนะ เพราะนอกจากจะเท่แล้วเสียงร่ำลือก็ยังบอกกันว่าอาชีพนี้น่ะ “รวย รวย แล้วก็รวย” แต่พอเอาเข้าจริงเราก็ไม่ยักจะเคยรู้ตัวเลขที่แน่ชัดว่าเงินเดือนของเหล่านักบินน่ะเยอะสมคำร่ำลือหรือไม่!?
แต่ตอนนี้ กัปตันวินัย ปราชญาพร นายกสมาคมนักบินไทยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้กับทาง ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ซึ่งข้อมูลแน่นปึ๊ก อีกทั้งยังตีแผ่รายได้ไว้แบบเป๊ะ ชนิดที่ใครได้ยินก็อาจจะเป็นลมได้เพราะตัวเลขมหาศาลจริงๆ เด็ดแค่ไหนมาดูกันจ้ะ…

บิน 10 ปีก็มีเงินเก็บ 25 ล้านได้สบายๆ
นี่เป็นเรื่องจริงในวงการนักบินที่ผลตอบแทนแสนจะมหาศาล โดยนักบินจะมีทั้งเงินเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยง ไปจนถึงสวัสดิการสุดฟินและสายการบินชั้นนำอย่างเอทิฮัดก็จ่ายหนักถึง 480,000 บาทต่อเดือน และยิ่งใครมีใบอนุญาติครูสอนนักบินก็เอาเพิ่มไปอีก 40,000 ชิลๆในขณะที่ทางการบินไทย กัปตันจะมีรายได้ราว 280,000 ต่อเดือน

ส่วนในระบบของการบินไทยนั้น นักบินใหม่จะได้เงิน 60,000+30,000 ค่าเบี้ยเลี้ยง ในขณะที่โคไพลอตจะมีเพดานสูงขึ้นมาที่ 160,000-180,000 บาท อย่างไรก็ตามเงินตรงจุดนี้ก็สู้สายการบินเอทิฮัดไม่ได้เพราะที่นั่นเค้าจ่ายหนักถึง 280,000 มากกว่าของไทยอีกเท่าตัวและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้วงการนักบินไทยเริ่มสั่นคลอน เพราะใครๆก็อยากได้เงินเยอะ
การปรับเงินเดือน
หากใครติดตามข่าวช่วงก่อนจะทราบว่ามีนักบินจำนวนมากลาออก และนั่นทำให้ทางการบินไทยพยายามปรับตัวตามเพื่อยื้อบุคลากรคุณภาพเอาไว้ด้วยการปรับเงินเดือน โดยกัปตันอัพขึ้น 60,000 บาท ซีเนียร์โคไพลอต 45,000 บาทและจูเนียร์โคไพลอต 30,000 บาท แต่อย่างไรก็ยังยากจะรั้งนักบินไทยฝีมือเก๋าไว้ได้ เพราะเอทิฮัดจงใจสู้ศึกยื้อแย่งนักบินจากทั่วโลกโดยการจ่ายเงินแบบหนักมาก วงการนักบินกำลังเติบโต
ปัจจุบันนักบินยังขาดแคลนอยู่มาก และประเทศที่เพิ่งผงาดขึ้นมาอย่างจีนกับอินเดียก็สั่งซื้อเครื่องบินมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งอีกหน่อยก็ย่อมหมายความว่าวงการนี้จะกว้างขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้ที่สนใจมีโอกาสมากขึ้นด้วย
การปรับเงินเดือน
หากใครติดตามข่าวช่วงก่อนจะทราบว่ามีนักบินจำนวนมากลาออก และนั่นทำให้ทางการบินไทยพยายามปรับตัวตามเพื่อยื้อบุคลากรคุณภาพเอาไว้ด้วยการปรับเงินเดือน โดยกัปตันอัพขึ้น 60,000 บาท ซีเนียร์โคไพลอต 45,000 บาทและจูเนียร์โคไพลอต 30,000 บาท แต่อย่างไรก็ยังยากจะรั้งนักบินไทยฝีมือเก๋าไว้ได้ เพราะเอทิฮัดจงใจสู้ศึกยื้อแย่งนักบินจากทั่วโลกโดยการจ่ายเงินแบบหนักมาก วงการนักบินกำลังเติบโต
ปัจจุบันนักบินยังขาดแคลนอยู่มาก และประเทศที่เพิ่งผงาดขึ้นมาอย่างจีนกับอินเดียก็สั่งซื้อเครื่องบินมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งอีกหน่อยก็ย่อมหมายความว่าวงการนี้จะกว้างขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้ที่สนใจมีโอกาสมากขึ้นด้วย


เศรษฐิจตกเงินเดือนไม่ลด แถมสวัสดิการค่ารักษามหาศาล
ตอนนี้สายการบินหลายแห่งอาทิ เอทิฮัด กำลังยึดคอนเซปต์ไม่ลดเงินเดือนพนักงานแม้เศรษฐกิจจะตกต่ำแค่ไหน เพราะต้องการซื้อใจเอาไว้ อีกทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลโดยเฉลี่ยก็คุ้มครองมากถึง 2,500,000 AED (ราว 20,000,000 บาท)แถมยังได้สิทธิประโยชน์ทั้งครอบครัวของนักบิน



คุณพระช่วย หมีขาวเห็นตัวเลขพวกนี้แล้วตาลุกวาวจริงๆ มิน่าล่ะคนถึงอยากเป็นนักบินกันนัก เพราะรายได้มันโคตะระมหาศาลสมคำร่ำลือเลยง้า 

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ต้องดูเลย 55555





555555555555
Posted by Youlike69 on 10 ตุลาคม 2015

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เศรษฐีขอซื้อรากไม้ 1 ล้านเจ้าของไม่ขาย เพราะอะไรมาดู



เรื่องราวของนายบุญเลิศ ทองสิงห์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านไม้แปลก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้เก็บรากไม้ตะเคียนอายุหลายสิบปีไว้ ที่มีความแปลกพิเศษแตกต่างจากรากไม้ทั่วไป มีลักษณะคล้ายหัวช้างขนาดใหญ่
นายบุญเลิศ กล่าวว่า “เมื่อก่อนตนมีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง จนปี 2551 ตนได้รับการว่าจ้างให้สร้างบ้านที่อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี แต่ก่อนจะสร้างต้องสูบน้ำออกจากพื้นที่ เมื่อตนสูบน้ำออกแล้ว ได้พบเห็นรากไม้ขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายหัวของช้าง ตนจึงนำมาเก็บรักษาไว้อย่างดี โดยตั้งโชว์ไว้ที่ร้านไม้แปลกแห่งนี้ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจาก นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนมาชมความแปลก และติดต่อขอซื้อไปประดับบารมี เคยมีคนมีให้ราคาสูงถึง 1 ล้านบาท แต่ตนเองยังไม่ยอมขาย
เนื่องจากเมื่อเอ่ยปากว่าจะขายครั้งใด มักมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น เช่น ฝันว่ามีผู้ชายนุ่งโจงกระเบนมาชี้หน้าด่าทั้งคืน ฝันว่ามีรถแบ็กโฮขับไล่ชน และเจองูจงอางขนาดใหญ่ ในบริเวณที่ตั้งรากไม้ตะเคียนทราย เป็นต้น ตนจึงตัดสินใจเก็บรักษาไว้กับตัวเองเพื่อประดับบารมีต่อไป ตนเองมีความรู้สึกส่วนตัวว่า รากไม้ตะเคียนทรายนี้ ไม่ได้เป็นของตนเพียงผู้เดียว อาจจะมีคนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง และรากไม้ที่คล้ายหัวช้างแบบนี้อาจจะไม่ได้มีชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียว ดังนั้น เมื่อได้ออกข่าวไป อาจจะมีผู้ที่มีรากไม้ลักษณะเดียวกันเก็บรักษาไว้เหมือนกับตนก็ได้ จึงอยากฝากไปถึง ผู้ที่มีรากไม้ที่มีลักษณะเหมือนหัวช้าง ให้มาเอารากไม้ตะเคียนทรายหัวช้างท่อนนี้ไปเก็บรักษาไว้คู่กัน เพื่อประดับบารมี ตนยินดีมอบให้ฟรีๆ”

พิลึกอาจารย์ ให้การบ้านหาแฟนให้ได้1คน ห้ามเป็นกิ๊กด้วย !!!!!



นักศึกษามีอึ้งเมื่ออาจารย์มหาวิทยาลัย สั่งการบ้านสุดแปลก ‘หาแฟนมาให้ได้ 1 คน ห้ามเป็นกิ๊ก Print รูปมาให้ดูด้วย’

เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้จริง ๆ หลังเฟซบุ๊กแฟนเพจ Chula Cute Boy ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงโจทย์การบ้านที่อาจารย์จากมหาวิทยาลัย ได้สั่งในวิชา Human Relation ว่าด้วยเรื่องมนุษย์สัมพันธ์ โดยให้นักศึกษาหาแฟนมาให้ได้ 1 คน ห้ามเป็นกิ๊ก และ Print รูปมาให้ดูด้วย เพื่อเป็นคะแนนพิเศษให้กับนักศึกษา โดยมีรายละเอียดดังนี้

Extra Credit ของวิชา Human Relation
โอ้โห! ยากกว่าสอบเข้าจุฬาฯอีก

ปล.คิ้วท์บอยคนไหนเรียนวิชานี้แล้วยังไม่มีแฟนบอกแอดมินกุ๊กไก่ได้นะ >///<
ปล2.อันนี้อาจารย์ล้อเล่นขำๆนะ 55
Cr.Phakinai Junpiyakul

งานนี้ชาวเน็ตก็ไม่อยู่เฉยต่างพากันเข้ามาคอมเม้นท์เรียกรอยยิ้มให้คนอ่านได้อย่างมากมายแม้จะเป็นเรื่องล้อเล่น โดยบ้างก็ว่า สั่งการบ้านแบบนี้คงต้องไปดรอปเรียนกันเลยทีเดียว เพราะไม่รู้จะหาแฟนยังไง ติด F แน่ ๆ หรืออย่างบางคนก็รู้สึกโชคดีที่ตอนตัวเองเรียนยังไม่มีการสั่งการบ้านแบบนี้

คลิป นร.สาวหน้าตาดี เดินไปในซอยเปลี่ยว ถูกแทงพรุน 17 แผลดับอนาถ!! มีคลิป







มีคนร้ายดักแทงน้องแอปเปิ้ล น.ร.สาววัย 19 พรุน 17 แผลดับสยองคาถนนเมืองระนอง พบมือถือ
แท็บเล็ตตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมเงินอีก 220 บาท เผยก่อนเกิดเหตุแช็ตหาเพื่อนสาวระบุจะเดินไปหาที่บ้านซึ่งอยู่ห่างกัน 1 ก.ม. ตอนหัวค่ำ แต่สุดท้ายกลับพบเป็นศพ เพื่อนสาวระบุ ปกติจะขี่จยย.ไปรับที่บ้าน แต่รถไม่ว่าง น้องแอปเปิ้ลจึงระบุจะเดินมาหาแต่สุดท้ายกลับเกิดเหตุร้าย ตร.เปิดวงจรปิดเช็กพบนักเรียนสาวเดินมาคนเดียว ท่าทางหวาดระแวงก่อนหายเข้าซอยไป สั่งชุดสืบหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ แต่มุ่งปมโกรธแค้นส่วนตัวเพราะคนร้ายไม่แตะต้องทรัพย์สิน
เมื่อ วันที่ 29 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ก.ย. ร.ต.ท.ประสิทธิ์ ดำนุ้ย ร้อยเวรสภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกมีดแทงเสียชีวิต เหตุเกิดกลางซอยสำนักสงฆ์สะพานปลา ข้างโรงเจ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมชาย อิ่มใจ ผกก.สภ.เมืองระนอง แพทย์ร.พ.ระนอง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิระนองสงเคราะห์
ที่ เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ห่างจากถนนสายสะพานปลา ประมาณ 100 เมตร พบศพน.ส.อรวี สำเภาทอง หรือแอปเปิ้ล อายุ 19 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนชื่อดังของจ.ระนอง สภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวลายการ์ตูนสีชมพู กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ถูกแทงนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดบนถนน มีโทรศัพท์แท็บเล็ต และไม้ไผ่ท่อนยาวประมาณ 1 เมตร ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบอาวุธมีดที่ใช้แทง ตรวจค้นในกระเป๋าพบเงินสด 220 บาท
ต่อ มามารดาของผู้ตายซึ่งเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้างแห่งหนึ่ง เดินทางมาที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นศพบุตรสาวก็ถึงกับร้องไห้โฮเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น โดยพร่ำบ่นว่าไม่นึกว่าลูกสาวจะออกจากบ้านมาตามลำพัง เพราะหลังเลิกเรียนลูกสาวจะอยู่บ้านคนเดียว ส่วนตนเองเลิกงาน และกลับเข้าบ้านประมาณ 3 ทุ่ม
ขณะที่แพทย์ร.พ.ระนองและ พนักงานสอบสวนร่วมกันชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าตามร่างกายบริเวณแผ่นหลังจนถึงต้นคอ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีคมถึง 17 แผล จากนั้นส่งศพไปที่ร.พ.ระนองเพื่อให้แพทย์นิติเวชชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด ต่อไป
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายแช็ตคุยในห้องสนทนาเฟซบุ๊กกับเพื่อนสาวที่สนิทสนมว่าจะเดินทางมาหาที่ บ้าน ซึ่งเพื่อนของผู้ตายบอกว่าไม่มีรถจักรยานยนต์ไปรับ ให้รออยู่ที่บ้านก่อน แต่ผู้ตายแช็ตบอกกับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายว่า เดินออกจากบ้านมาแล้ว ทั้งนี้จากบ้านผู้ตายไปยังบ้านเพื่อนคน ดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 1 ก.ม. จะผ่านถนนสายหลักสะพานปลา โดยก่อนจะข้ามถนนเข้าซอยสำนักสงฆ์ ข้างโรงเจ ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง คาดว่าคนร้ายที่ติดตามมาหรือดักคอยอยู่ได้ลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ทั้งนี้ประชาชนที่มีบ้านอยู่ละแวก ดังกล่าวได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" เมื่อพลเมืองดีออกมาช่วยเหลือก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ
ด้านพ.ต.อ.สมชาย ผกก.สภ.เมืองระนอง สั่งให้สอบปากคำประจักษ์พยานที่เกี่ยวข้อง และตรวจหากล้องวงจรปิดบริเวณข้างเคียงเพื่อหาเบาะแสคนร้าย เบื้องต้นตั้งประเด็นไว้กว้างๆ 3 ประเด็น คือ 1.ความขัดแย้งส่วนตัวกับเพื่อนชายหรือกลุ่มอันธพาลวัยรุ่นที่มาติดพัน แต่ผู้ตายซึ่งเป็นเด็กเรียบร้อยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย 2.ถูกประทุษร้ายต่อร่างกาย เนื่องจากคนร้ายเห็นผู้ตายนุ่งสั้น เดินเข้าซอยเปลี่ยวเพียงคนเดียว และ 3.ประสงค์ต่อทรัพย์
ขณะ ที่มารดาของเพื่อนสาวคนสนิทให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า น้องแอปเปิ้ล ผู้ตาย เป็นเด็กเรียบร้อย สนิทสนมกันมากกับลูกสาวของตน มีอะไรจะคุยกันตลอด และวันหยุดจะมาหาที่บ้านตอนกลางวันเป็นประจำ โดยลูกสาวจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับผู้ตายที่บ้าน เมื่อช่วงหัวค่ำตนนำรถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระ ซึ่งลูกสาวจึงแช็ตบอกผู้ตายให้รออยู่ที่บ้านก่อนเดี๋ยวรถกลับมาจะขี่ไปรับ แต่ผู้ตายตอบกลับว่า เดินออกจากบ้านมาแล้ว กระทั่งมีคนมาพบศพกลางซอยก่อนถึงบ้านเพียง 100 เมตร
ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดระนอง นักเรียนภายในโรงเรียนต่างจับกลุ่มกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ ผ่านมา โดยผู้อำนวยการโรงเรียนให้ครูที่ปรึกษา คอยติดตามเรื่องนี้ และจะไปร่วมวางพวงหรีดไว้อาลัยกับน้อง ผู้เสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.ภ.จว.ระนอง เผยว่า จะลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันและปราบปรามสอบสวนพยานที่ใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยรอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในเวลา 11.00 น. จะให้ทุกฝ่ายได้มาประชุมประมวลผลและสรุปประเด็นการสังหาร ยืนยันว่าคดีนี้จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะในความรู้สึกของสังคม นักเรียนสาวเป็นเพศที่อ่อนแอ และไม่สามารถที่จะปกป้องตนเองได้


"ประเด็น แรกที่ให้น้ำหนักมากที่สุดคือการโกรธแค้นส่วนตัว อีกประเด็นคือเรื่องการ ชิงทรัพย์ ซึ่งประมวลเหตุจากพนักงานสอบสวนและพนักงานสืบสวนรวมทั้ง กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพลักษณะอาการ ของผู้ตายก่อนเกิดเเหตุ ซึ่งมีความระแวง สงสัยว่ามีคนตามหรือไปดักรอหรือไม่" พล.ต.ต.นรินทร์กล่าว
ต่อ มาเวลา 12.00 น. ญาติๆ และเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นต่างไปรอรับศพน.ส.อรวี น้องแอปเปิ้ล เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญ วัดอุปนันทาราม และขอรับฟังคำชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องแอปเปิ้ล จากนายแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลระนอง โดยแพทย์ชันสูตรกล่าวว่า น้องถูกอาวุธของมีคมแทงทั่วตามร่างกาย 17 แผล และสาเหตุการเสียชีวิต คือการถูกแทงที่สีข้างด้านขวา ไปถูกบริเวณตับทำให้ตับฉีกขาด
น.ส.อร พรรณ สำเภาทอง อายุ 21 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้เร็วที่สุด เพราะว่าน้อง ไม่น่าจะเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว โดยส่วนตัวก็ไม่ทราบสาเหตุเพราะปกติอยู่บ้าน น้องสาวก็จะเป็นคนนิ่งๆ นิสัยเรียบร้อย
ส่วนเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน ระบุว่า น้องแอปเปิ้ลมีอุปนิสัยจะเป็นคนเงียบๆ แต่เรียบร้อย และจะเฮฮากับเพื่อนปกติดี แต่หากมีปัญหาอะไรส่วนตัวก็จะไม่ค่อยบอกเพื่อน แต่ถ้าเครียดจริงๆ ก็จะบอกเพื่อน ส่วนเรื่องชู้สาวหรือมีปัญหากับแฟนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการติดตามคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแผงกั้นไม่ให้รถหรือคนเข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุโดย รอบ 100 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง พยายามหาร่องรอยหรือ หลักฐานเพิ่มเติม บริเวณพงหญ้าข้างถนนทั้งสองข้างทาง รวมทั้งเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
ทั้งนี้จากการตรวจ สอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านปากซอยทางเข้าจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพน้องแอปเปิ้ล ผู้เสียชีวิตไว้ได้ ก่อนเกิดเหตุ เพียงไม่ถึง 15 วินาที โดยจะเห็นภาพน้องเดินเลี้ยวเข้ามาในซอย โดยสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อยืดแขนยาว มือขวาถือแท็บเล็ตโทรศัพท์มือถือแนบไว้กับหน้าอกขวา และขณะเดินเข้ามาได้ระยะประมาณ 10 ก้าว ก็หยุดเดินและเหลียวขวาไปมองเส้นทางริมฟุตปาธที่เดินมาก่อนหน้า คล้ายกับกำลังสงสัยว่ามีใครติดตามมาหรือไม่ จากนั้นเดินต่อเข้าซอยไปทันที และกลางซอยตรงจุดเกิดเหตุ คาดว่ามีคนร้ายไปดักรออยู่ก่อน โดยเข้าทางด้านหน้าสำนักสงฆ์สะพานปลา สามารถทะลุออกถนนกลางซอยนี้ได้ และขณะเกิดเหตุกล้องไม่สามารถจับภาพไว้ได้ แต่ก็กำลังติดตามในส่วนที่เป็นประจักษ์พยาน