วันนี้ (17ต.ค.) เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าข้อดีของการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร บทความต่าง ๆ มันทำให้คนไม่รู้ ได้รับรู้เรื่องราวที่เขาไม่เคยได้รับรู้ แต่ปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถเป็นผู้ส่งต่อข้อมูลได้ หากเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์คงไม่เกิดผลเสียอะไร แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ นอกจากจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดแล้ว อาจมีผลต่อชีวิตของผู้ที่ทำตามบทความที่ผิด ๆ นั้นได้
อย่างกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อภาพและข้อความระบุว่า ทองคำนอกจากจะใช้เป็นเครื่องประดับแล้วยังมีประโยชน์หลายอย่างค่ะ ถ้าถูกงูพิษกัด ให้ใช้เชือกรัดเพื่อป้องกันพิษเข้าสู่หัวใจ แล้วรีบเช็ดเลือดออก เอาทองมาถูเบา ๆ ที่ปากแผล ทองจะดูดเอาเยื่อใส ๆ ออกมา นั่นคือพิษ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลค่ะ ถ้าเป็นหมอชาวบ้านจะใช้ สมุนไพรรักษาต่อค่ะ ถ้าต้องการทราบว่า ลิปสติก มีสารอันตรายหรือเปล่า เอาลิปสติกมาป้ายที่มือ แล้าเอาทองมาถู ๆ ถ้ามีจะเปลี่ยนเป็นสีดำ เป็นสารตะกั่วค่ะและยังมีการนำมาใช้ในการเสริมความงามด้วยค่ะ
อาจารย์เจษฎาชี้ ทองเป็นธาตุเฉื่อย จะมาดูดพิษงู ทำลายพิษงูอะไรได้
ประเด็นดังกล่าวสร้างความสนใจให้ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก บ้างก็เชื่อในข้อมูลนี้แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ ล่าสุดอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า
“ทองคำใช้แก้พิษงูไม่ได้นะ” คิดได้ไงเอาทองมาถูที่แผลงูกัน ทองจะดูดพิษออกมา คือทองมันเป็นธาตุเฉื่อยนะ ไม่ได้จะมาดูดพิษงู ทำลายพิษงูอะไรได้ แล้วที่แนะนำให้เอาเชือกรัดป้องกันพิษเข้าหัวใจ ทางการแพทย์เขาก็ไม่แนะนำให้ทำกันแล้วด้วย จริง ๆ เขาเล่นแนะนำให้ใช้สมุนไพรรักษาต่อ อันนี้ก็ตัวใครตัวมัน แถมว่าการใช้ทองเช็คลิปสติกว่ามีตะกั่วหรือเปล่า ก็ไม่ได้ผล มันแค่เรื่องเล่าตาม ๆ กันมา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น