วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

กินยังไง ไม่อ้วน?? จากหนัก 52 เหลือ 44 โดยกินครบ3มื้อและไม่พึ่งยาลดน้ำหนัก

กินยังไง ไม่อ้วน?? จากหนัก 52 เหลือ 44 โดยกินครบ3มื้อและไม่พึ่งยาลดน้ำหนัก

คนรอบตัวพัชข้องใจกันมากค่ะ เป็น Blogger สาย Food & Travel แล้วทำไมตัวยังนิดเดียว กินก็เยอะ ไหนกินยาคุมน้ำหนักของอะไร เฮ้ยยยยย ! ออกตัวก่อนเลยค่ะว่าค่อนข้างหัวโบราณทางเรื่องตรงนี้ เพราะส่วนตัวคิดว่า ยังไงร่างกายก็ควรได้รับการฝึกและทำงานอย่างเป็นธรรมชาติ วันไหนที่มีงานรีวิวหรือออกทริปพัชก็กินเต็มที่ค่ะ แต่กฏหลักๆของพัชเลยก็คือ “เลี่ยงแป้ง” และมีอีก 6 ข้อที่พัชอยากจะเอามาแนะนำกันวันนี้ก็คือ…


ข้อที่หนึ่ง

เพียงแค่ “กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ ในทุกๆวัน”

– สารอาหารต้องครบถ้วน
– อิ่มแต่พอดีและได้พลังงานที่เหมาะสม

มื้อเย็นส่วนมากพัชจะเน้นเป็นพวกเนื้อสัตว์/ผลไม้หรือน้ำผักปั่นสดแทน หลีกเลี่ยงพวกอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เช่น แป้ง ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่พัชใช้ในการคุมน้ำหนักซึ่งทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายค่ะ

ภาพDiagramด้านล่างอธิบายปริมาณอาหารที่ควรทานในแต่ละมื้อได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ


**แก้ไขเพิ่มเติม พัชยืนยันนะคะว่า ไม่ควรอดมื้อเย็น เพราะมีอยู่ช่วงนึงที่น้ำหนักพัชคงที่แล้วอยู่ที่ 44 แต่อยากจะลองให้น้อยกว่านั้นอีก พัชเลยไม่กินข้าวเย็นค่ะ เป็นเวลากว่า 2 ปี น้ำหนักก็ลงไปอยู่ที่ 41.8 แต่ !! น้ำหนักไม่คงที่ จะเด้งไปเด้งมาอยู่ที่ 42-45 ที่สำคัญที่ขามีเซลลูไลท์ด้วยค่ะ เนื่องจากร่างกายคิดว่าเราขาดอาหาร พอตอนเช้า-กลางวันกินเข้าไป มันก็จะเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ T^T

พอมาปรับกินข้าวเย็น อาหารไม่ย่อยอยู่หลายเดือนเลยค่ะ กินแล้วท้องอืดตลอด กินแล้วแสบท้องเหมือนเป็นโรคกระเพาะก็บ่อยครั้ง เป็นอยู่แบบนั้นเกือบ 3 เดือนได้ค่ะ แต่พอพ้น 3 เดือนแล้ว ระบบย่อยก็ทำงานปกติ เซลลูไลท์ที่ขาก็เริ่มหายไป (อันนี้ต้องออกกำลังกายไล่เค้าออกไปด้วยนะคะ)

ดังนั้นการที่เราน้ำหนักตัวน้อยลง ไม่ได้หมายความว่าเรามีสุขภาพที่ดีเสมอไปนะคะ
ข้อสองคือ

“กินโปรตีนเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของอาหารในจาน”

– กินปลา ถั่ว ธัญพืช อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-4ครั้ง ไข่วันละ1-2 ฟอง
– ลดการกินเนื้อสัตว์สีแดง (หมู เนื้อวัว) หรือเลือกกินแบบไม่ติดมัน

ถ้าใครลดข้าวเย็นไม่ได้จริงๆพัชก็แนะนำให้ทานเป็นพวกโปรตีนแทนนะคะ บางวันพัชเหนื่อยๆก็ทานบ้าง จะเน้นเป็นพวกเนื้อสัตว์และผัก


หน้าตาสวยๆน่ากินๆแบบนี้ก็อ้วนได้ง่ายๆนะคะ


ข้อถัดมาคือ

“กินคาร์โบไฮเดรตเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของอาหารในจาน”

– ควรกินข้าวกล้องให้มาก เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
– กินคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้า เช่นข้าวโพดขนมปังโฮลวีท

หอยทอดเอย ผัดไทเอย Pastaเอย พิซซ่าเอย ตัวดีทั้งนั้นเลยนะคะ นานๆกินทีอ่ะได้ แต่ถ้ากินบ่อยๆติดๆกันเวลาเอาออกมันยากกว่าตอนเอาเข้านะจ๊ะจะบอก


เคบับก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่พัชแนะนำค่ะ แต่จะให้ดีต้องเลือกซอสที่น้ำตาลน้อยด้วยนะ

ข้อสี่

“หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด ผัด”

– อาหารทอดหรือผัด 1 จาน มีน้ำมันมากกว่า 4 ช้อนโต๊ะทำให้ได้รับไขมันมากเกิน 65 กรัมต่อวัน (พัชไม่ได้นั่งนับอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ กะๆเอาเฉยๆ)
– หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปาล์มในการทอด เพราะจะทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกิน


ลาบต่างๆก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยค่ะ (ระวังผงชูรสกันด้วยนะคะ)
ข้อที่ห้า

“กินผักเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของอาหารในจาน”

– รวมผลไม้ด้วย และควรกินวันละครึ่งกิโลกรัม ใน1สัปดาห์เราควรกินผักให้ครบ 7 สี
– กินผลไม้แบบสดๆ ไม่ผ่านการแปรรูป ไม่หวาน เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง

และก็อีกเช่นเคยค่ะ พัชเองก็ไม่ได้มานั่งนับว่าปริมาณมันถึง ครึ่งกิโลหรือยัง พัชเพียงแค่กะเอา หรือช่วงไหนที่พัชไม่อยากทานเลยก็จะดื่มน้ำผักปั่นสดๆเอา โดยที่ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มเติม ตรงนี้ยังช่วยให้เราได้รับกากใยอาหารมากกว่าจากน้ำผลไม้กล่องด้วยค่ะ


ข้อที่หก

“ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร”

– กระจายการดื่มน้ำให้ครอบคลุมทั้งวัน เพื่อช่วยระบบขับถ่าย ซึ่งทำให้ไตขับของเสียได้ดีขึ้น
– ช่วยให้เลือดไม่ข้นเกินไป ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้แล้วการดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้ผิวพรรณของเราผ่องใสด้วยนะคะ หากใครชอบลืมดื่มน้ำพัชแนะนำแอพ Plant Nanny ค่ะ ซึ่งจะเป็นแอพที่คอยเตือนให้เราดื่มน้ำ ความสนุกของแอพนี้ก็คือเราจะได้ปลูกต้นไม้(ในมือถือ)ไปด้วยในตัว อารมณ์จะคล้ายๆทามาก็อตค่ะ พอเราดื่มน้ำ ต้นไม้ก็จะได้น้ำด้วย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น