
ต้องบอกว่าชะตาพลิกชนิดที่เปลี่ยนแปลงเธอไปตลิดกาลจริงๆ สำหรับเน็ตไอดอลคนนี้ สำหรับ จิ๊บ ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์ จะเปลี่ยนเเปลงอย่างไรมาติดตามเรื่องราวชีวิตของเธอกันเลย…..
เป็นเน็ตไอดอลตัวแม่ในโลกโซเชี่ยลฯ ที่ถูกยกให้เป็นกูรูเรื่องความสวยความงามสำหรับ จิ๊บ ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์ หรือที่คนในวงการเรียกเธอว่า พี่จิ๊บ ABSOLUTE ที่หลายๆ คนเห็นว่าเบื้องหน้า ณ ปัจจุบันของเธอในไอจี pjibabsolute เป็นนักธุรกิจสาวมั่นไฟแรง ที่ทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ ABSOLUTE by JIB แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ กว่าจะได้มาเป็น พี่จิ๊บ ABSOLUTE เธอต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิตมานานหลายปี ถึงขั้นเคยโดนเพื่อนดูถูกว่าเป็นแค่ แม่ค้าขายหมูทอด จะทำเงินได้เดือนละกี่บาท ทำให้ปมที่เคยโดนเพื่อนดูถูก กลายเป็นแรงผลักดันทำให้จิ๊บต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และตั้งใจว่าชีวิตนี้ต้องมีเงินล้านให้ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถึงขั้นเกือบจะฆ่าตัวตายมาแล้ว เพราะหมดเงินหลายล้านไปกับการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาดกว่า 10ครั้ง

“ทุกวันนี้คนมองว่าจิ๊บสุขสบาย เอาจริงๆ มันก็สบายแล้วนะ มีบ้านให้ตัวเอง 2 หลัง และซื้อให้พ่อกับแม่คนละหลัง รถของตัวเอง 2 คัน พ่อกับแม่อีกคนละคัน ทุกอย่างซื้อสด เพราะเข็ดกับชีวิตที่เป็นหนี้สิน ก็ถือว่ามีความสุขมากทุกวันนี้ เพราะพ่อแม่เราสบาย คือตัวเราจะยังไงก็ช่าง ครอบครัวเราคนที่มีบุญคุณต่อเราต้องสบาย แต่ความสบายกว่าที่จะมาหาจิ๊บได้ จิ๊บต้องเสียน้ำตามาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ตัวจิ๊บลำบากได้ แต่จิ๊บไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาลำบาก แล้วพ่อแม่จิ๊บแยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ เราอยู่ตัวคนเดียว และทำงานเสิร์ฟอาหาร ทำขนมขาย ส่งเสียตัวเองเรียนเองจนจบ ผ่านความลำบากมาเรียกได้ว่าครบทุกอย่างแล้ว คือสมัยก่อนเราเห็นพ่อแม่ทำงานหนักมาก ตัวเราเลยชินกับภาพแบบนี้ ก็เลยไม่เคยกลัวความลำบาก แล้วคิดการขายของน่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด

คือจิ๊บคิดแบบง่ายๆ ว่าการขายของยังไงมันก็ต้องได้กำไร มากน้อยมันก็ยังเป็นกำไรอยู่ดี ถ้าเรายอมเหนื่อยมากกว่าคนอื่นอีกนิดมันต้องรวย เพราะความเหนื่อยจากตัวเรามันไม่ต้องลงทุนแค่อาศัยความอดทน เมื่อ 4 ปีก่อนจิ๊บก็เริ่มจากการขายรองเท้ามือสอง ต้องลงไปนั่งขัดรองเท้าของใครก็ไม่รู้วันละเป็นร้อยๆ คู่ กว่าจะได้กำไรคู่ละ 20-30 บาท มันเหนื่อยมาก บางวันไม่มีเงินจะกินข้าว ต้องไปขอติดเงินเขาไว้ ขายของเสร็จถึงจะมาจ่าย ลำบากสุดๆ จนเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะอยู่กับฝุ่น กับเชื้อโรคตลอดเวลา เลยตัดสินใจเลิกทำ ก็เปลี่ยนมาขายหมูทอดตามตลาดนัด เพราะชอบทำอาหาร ได้กำไรวันละ 5-6 ร้อย ตอนนั้นเราก็มองว่าเยอะแล้ว เพราะเราจน กะว่าจะยึดเป็นอาชีพนี้ไปตลอด

แล้วมีอยู่วันนึงจิ๊บได้ไปเจอกับเพื่อนเก่าๆ เขาก็ถามว่าจิ๊บว่าทำอะไร จิ๊บก็บอกขายหมูทอดที่ตลาดนัด เพื่อนบางคนถึงกับเบ้ปากใส่ แต่จิ๊บก็แกล้งๆ ทำเป็นมองไม่เห็นซะ รู้ว่าแล้วว่าสถานการณ์มันจะเป็นยังไง เขาก็ถามจิ๊บนะว่าได้กำไรเท่าไหร่ เราก็บอกบางเดือนหลักพัน บางเดือนก็หลักหมื่น เขาก็พูดเชิงดูถูกเรานะ ว่าจะพอกินหรอ สมัยนี้มันต้องมีเงินเก็บเป็นแสนๆ จากนั้นเพื่อนๆ ที่เคยสนิทกันบางคนก็หายไปเลย แล้วจิ๊บรู้มาว่าเขาเอาจิ๊บไปนินทา ตอนนั้นเสียใจมาก ร้องไห้หนักมาก ทำไมเพื่อนถึงเป็นแบบนี้ จากนั้นก็ตั้งใจว่าชีวิตนี้จะต้องมีเงินล้านให้ได้ และไม่ยอมให้ใครมาดูถูกทั้งตัวเองและครอบครัวเรา


ซึ่งจิ๊บก็มาพิจารณาตัวเอง ว่าเราเป็นคนรักสวย รักงาม อยู่บ้างตามประสาผู้หญิง และมีพี่ที่รู้จักกันแนะนำให้ลองมาเริ่มทำธุรกิจนี้ จิ๊บเลยมองหาช่องทางทำธุรกิจความสวยความงาม ค่อยๆ เริ่มจากเล็กๆ ขายแค่ในกลุ่มคนรู้จักก่อน จนได้มาเป็นแบรนด์ ABJ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำแล้วจะขายได้เงินแสน เงินล้าน เลยนะ ล้มลุกคลุกคลานมาหลายรอบมาก เพราะความรู้เรื่องการทำธุรกิจเราไม่มีเลย แต่ก็ไม่ละความพยายามที่จะศึกษาเรียนรู้ พอเริ่มอยู่ตัวได้ พอมีเงินจิ๊บก็เอาไปศัลยกรรมหมด นี่ก็คือเป็นจุดพีคของชีวิตจิ๊บเลย คือดูแย่มาก เพราะตอนนั้นเรามีปมด้อยว่าเราไม่สวย แล้วอยากสวย จิ๊บยอมรับแบบไม่อายเลยว่าผ่านการทำศัลยกรรมมาเยอะมาก คือคิดว่าถ้าเราจะทำธุรกิจความสวยความงามเราต้องสวยให้ถึงที่สุดซึ่งจิ๊บก็ทำหลายรอบมากเกือบๆ 10 ครั้ง พูดง่ายๆ ว่าเราเสพติดศัลยกรรมไปแล้ว หมดเงินไป 3-4 ล้านบาท ซึ่งครั้งแรกๆ ที่ทำออกมา บอกเลยว่าไม่ถูกใจมาก หน้าเบี้ยว จมูกเบี้ยว คางเบี้ยว ตาไม่เท่ากัน เพราะเราศึกษามาน้อยมาก จนเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว อายคนมาก ไม่กล้าออกไปไหนเลย คิดว่าจบแล้วชีวิตนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
แต่ด้วยความที่ธุรกิจไปได้สวย เนื่องมาจากความจริงใจ ที่เรามีให้กับลูกค้า ลูกค้าถามอะไรมา เราก็จะบอกตามความจริงตลอด ให้คำปรึกษาเหมือนเพื่อนเหมือนพี่น้อง ทำให้ธุรกิจทำเงินได้พอสมควรเลย ก็เลยมีเงินพอที่จะแก้ไข จนได้รูปหน้าปัจจุบัน จิ๊บอยากจะเตือนน้องๆ หรือใครที่คิดอยากทำศัลยกรรม ต้องศึกษาให้ดีๆ ก่อน นอกจากจะมีเงินทำแล้ว ยังต้องเตรียมเงินไว้เผื่อการแก้ไขในกรณีที่ผิดพลาดด้วย ไม่งั้นชีวิตจบ โชคดีที่จิ๊บมีธุรกิจรองรับ ถึงมีเงินทำต่อ จนตอนนี้ได้หน้าที่พอใจมากแล้วค่ะ

ส่วนคนที่เคยดูถูกจิ๊บ จิ๊บขออโหสิกรรมให้ ไม่ได้โกรธเขาเลย เพราะคำดูถูกมันทำให้จิ๊บมีแรงผลักดันจนถึงทุกวันนี้ ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เพื่อนที่เคยดูถูกก็กลับมาให้จิ๊บช่วยเหลือนะคะ ก็ช่วยเงินไปอยู่หลายแสนเลย นึกแล้วก็ตลกดีนะ แต่ก็ไม่คิดอะไรมากค่ะ อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำ ชีวิตคนเรามันสั้น วันนี้ พรุ่งนี้ อาจจะไม่มีเวลาได้ใช้เงินแล้วก็ได้ ทำอะไรแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนใคร ไม่เดือดร้อนพ่อแม่ และดูแลพ่อแม่ได้ จิ๊บว่าทำไปเถอะค่ะ แต่ต้องอย่าประมาทในการใช้ชีวิตนะคะ ทุกวันนี้ที่ประสบความสำเร็จได้ คิดว่ามาจากความกตัญญู เรื่องสำคัญมากค่ะ”
เป็นเน็ตไอดอลตัวแม่ในโลกโซเชี่ยลฯ ที่ถูกยกให้เป็นกูรูเรื่องความสวยความงามสำหรับ จิ๊บ ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์ หรือที่คนในวงการเรียกเธอว่า พี่จิ๊บ ABSOLUTE ที่หลายๆ คนเห็นว่าเบื้องหน้า ณ ปัจจุบันของเธอในไอจี pjibabsolute เป็นนักธุรกิจสาวมั่นไฟแรง ที่ทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ ABSOLUTE by JIB แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ กว่าจะได้มาเป็น พี่จิ๊บ ABSOLUTE เธอต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิตมานานหลายปี ถึงขั้นเคยโดนเพื่อนดูถูกว่าเป็นแค่ แม่ค้าขายหมูทอด จะทำเงินได้เดือนละกี่บาท ทำให้ปมที่เคยโดนเพื่อนดูถูก กลายเป็นแรงผลักดันทำให้จิ๊บต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และตั้งใจว่าชีวิตนี้ต้องมีเงินล้านให้ได้ แต่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถึงขั้นเกือบจะฆ่าตัวตายมาแล้ว เพราะหมดเงินหลายล้านไปกับการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาดกว่า 10ครั้ง

“ทุกวันนี้คนมองว่าจิ๊บสุขสบาย เอาจริงๆ มันก็สบายแล้วนะ มีบ้านให้ตัวเอง 2 หลัง และซื้อให้พ่อกับแม่คนละหลัง รถของตัวเอง 2 คัน พ่อกับแม่อีกคนละคัน ทุกอย่างซื้อสด เพราะเข็ดกับชีวิตที่เป็นหนี้สิน ก็ถือว่ามีความสุขมากทุกวันนี้ เพราะพ่อแม่เราสบาย คือตัวเราจะยังไงก็ช่าง ครอบครัวเราคนที่มีบุญคุณต่อเราต้องสบาย แต่ความสบายกว่าที่จะมาหาจิ๊บได้ จิ๊บต้องเสียน้ำตามาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ตัวจิ๊บลำบากได้ แต่จิ๊บไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาลำบาก แล้วพ่อแม่จิ๊บแยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ เราอยู่ตัวคนเดียว และทำงานเสิร์ฟอาหาร ทำขนมขาย ส่งเสียตัวเองเรียนเองจนจบ ผ่านความลำบากมาเรียกได้ว่าครบทุกอย่างแล้ว คือสมัยก่อนเราเห็นพ่อแม่ทำงานหนักมาก ตัวเราเลยชินกับภาพแบบนี้ ก็เลยไม่เคยกลัวความลำบาก แล้วคิดการขายของน่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด

คือจิ๊บคิดแบบง่ายๆ ว่าการขายของยังไงมันก็ต้องได้กำไร มากน้อยมันก็ยังเป็นกำไรอยู่ดี ถ้าเรายอมเหนื่อยมากกว่าคนอื่นอีกนิดมันต้องรวย เพราะความเหนื่อยจากตัวเรามันไม่ต้องลงทุนแค่อาศัยความอดทน เมื่อ 4 ปีก่อนจิ๊บก็เริ่มจากการขายรองเท้ามือสอง ต้องลงไปนั่งขัดรองเท้าของใครก็ไม่รู้วันละเป็นร้อยๆ คู่ กว่าจะได้กำไรคู่ละ 20-30 บาท มันเหนื่อยมาก บางวันไม่มีเงินจะกินข้าว ต้องไปขอติดเงินเขาไว้ ขายของเสร็จถึงจะมาจ่าย ลำบากสุดๆ จนเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะอยู่กับฝุ่น กับเชื้อโรคตลอดเวลา เลยตัดสินใจเลิกทำ ก็เปลี่ยนมาขายหมูทอดตามตลาดนัด เพราะชอบทำอาหาร ได้กำไรวันละ 5-6 ร้อย ตอนนั้นเราก็มองว่าเยอะแล้ว เพราะเราจน กะว่าจะยึดเป็นอาชีพนี้ไปตลอด

แล้วมีอยู่วันนึงจิ๊บได้ไปเจอกับเพื่อนเก่าๆ เขาก็ถามว่าจิ๊บว่าทำอะไร จิ๊บก็บอกขายหมูทอดที่ตลาดนัด เพื่อนบางคนถึงกับเบ้ปากใส่ แต่จิ๊บก็แกล้งๆ ทำเป็นมองไม่เห็นซะ รู้ว่าแล้วว่าสถานการณ์มันจะเป็นยังไง เขาก็ถามจิ๊บนะว่าได้กำไรเท่าไหร่ เราก็บอกบางเดือนหลักพัน บางเดือนก็หลักหมื่น เขาก็พูดเชิงดูถูกเรานะ ว่าจะพอกินหรอ สมัยนี้มันต้องมีเงินเก็บเป็นแสนๆ จากนั้นเพื่อนๆ ที่เคยสนิทกันบางคนก็หายไปเลย แล้วจิ๊บรู้มาว่าเขาเอาจิ๊บไปนินทา ตอนนั้นเสียใจมาก ร้องไห้หนักมาก ทำไมเพื่อนถึงเป็นแบบนี้ จากนั้นก็ตั้งใจว่าชีวิตนี้จะต้องมีเงินล้านให้ได้ และไม่ยอมให้ใครมาดูถูกทั้งตัวเองและครอบครัวเรา


ซึ่งจิ๊บก็มาพิจารณาตัวเอง ว่าเราเป็นคนรักสวย รักงาม อยู่บ้างตามประสาผู้หญิง และมีพี่ที่รู้จักกันแนะนำให้ลองมาเริ่มทำธุรกิจนี้ จิ๊บเลยมองหาช่องทางทำธุรกิจความสวยความงาม ค่อยๆ เริ่มจากเล็กๆ ขายแค่ในกลุ่มคนรู้จักก่อน จนได้มาเป็นแบรนด์ ABJ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำแล้วจะขายได้เงินแสน เงินล้าน เลยนะ ล้มลุกคลุกคลานมาหลายรอบมาก เพราะความรู้เรื่องการทำธุรกิจเราไม่มีเลย แต่ก็ไม่ละความพยายามที่จะศึกษาเรียนรู้ พอเริ่มอยู่ตัวได้ พอมีเงินจิ๊บก็เอาไปศัลยกรรมหมด นี่ก็คือเป็นจุดพีคของชีวิตจิ๊บเลย คือดูแย่มาก เพราะตอนนั้นเรามีปมด้อยว่าเราไม่สวย แล้วอยากสวย จิ๊บยอมรับแบบไม่อายเลยว่าผ่านการทำศัลยกรรมมาเยอะมาก คือคิดว่าถ้าเราจะทำธุรกิจความสวยความงามเราต้องสวยให้ถึงที่สุดซึ่งจิ๊บก็ทำหลายรอบมากเกือบๆ 10 ครั้ง พูดง่ายๆ ว่าเราเสพติดศัลยกรรมไปแล้ว หมดเงินไป 3-4 ล้านบาท ซึ่งครั้งแรกๆ ที่ทำออกมา บอกเลยว่าไม่ถูกใจมาก หน้าเบี้ยว จมูกเบี้ยว คางเบี้ยว ตาไม่เท่ากัน เพราะเราศึกษามาน้อยมาก จนเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว อายคนมาก ไม่กล้าออกไปไหนเลย คิดว่าจบแล้วชีวิตนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
แต่ด้วยความที่ธุรกิจไปได้สวย เนื่องมาจากความจริงใจ ที่เรามีให้กับลูกค้า ลูกค้าถามอะไรมา เราก็จะบอกตามความจริงตลอด ให้คำปรึกษาเหมือนเพื่อนเหมือนพี่น้อง ทำให้ธุรกิจทำเงินได้พอสมควรเลย ก็เลยมีเงินพอที่จะแก้ไข จนได้รูปหน้าปัจจุบัน จิ๊บอยากจะเตือนน้องๆ หรือใครที่คิดอยากทำศัลยกรรม ต้องศึกษาให้ดีๆ ก่อน นอกจากจะมีเงินทำแล้ว ยังต้องเตรียมเงินไว้เผื่อการแก้ไขในกรณีที่ผิดพลาดด้วย ไม่งั้นชีวิตจบ โชคดีที่จิ๊บมีธุรกิจรองรับ ถึงมีเงินทำต่อ จนตอนนี้ได้หน้าที่พอใจมากแล้วค่ะ

ส่วนคนที่เคยดูถูกจิ๊บ จิ๊บขออโหสิกรรมให้ ไม่ได้โกรธเขาเลย เพราะคำดูถูกมันทำให้จิ๊บมีแรงผลักดันจนถึงทุกวันนี้ ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เพื่อนที่เคยดูถูกก็กลับมาให้จิ๊บช่วยเหลือนะคะ ก็ช่วยเงินไปอยู่หลายแสนเลย นึกแล้วก็ตลกดีนะ แต่ก็ไม่คิดอะไรมากค่ะ อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำ ชีวิตคนเรามันสั้น วันนี้ พรุ่งนี้ อาจจะไม่มีเวลาได้ใช้เงินแล้วก็ได้ ทำอะไรแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนใคร ไม่เดือดร้อนพ่อแม่ และดูแลพ่อแม่ได้ จิ๊บว่าทำไปเถอะค่ะ แต่ต้องอย่าประมาทในการใช้ชีวิตนะคะ ทุกวันนี้ที่ประสบความสำเร็จได้ คิดว่ามาจากความกตัญญู เรื่องสำคัญมากค่ะ”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น