วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

โคตรเทพ! 6 แข้งประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เป็นตัวสำรองแต่ลงมา “กดแฮตทริก”


ในเกมระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ เชลซี ที่ผ่านมา สตีเวน เนย์สมิธ กองหน้าตัวสำรองของทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองได้สำเร็จ
และผลงานในเกมนี้ก็ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่ออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่ยิงแฮตทริกได้ในเวลาที่เหลืออยู่
ส่วนคนที่เหลืออยู่จะมีใครกันบ้างกดสไลด์โชว์ไปดูกันเลย !!


6. สตีเวน เนย์สมิธ
เอฟเวอร์ตัน 3-1 เชลซี (2015-16)
เริ่มกันด้วยเจ้าของสถิติคนล่าสุดที่เพิ่งทำแฮตทริกหลังการลงมาเป็นตัวสำรองไปได้หมาด ๆ เมื่อคืน
โดย เนย์สมิธ ถูกส่งตัวลงมาเล่นแทน โมฮัมเหม็ด เบซิช ในนาทีที่ 9 ก่อนจะทำ “เพอร์เฟ็คแฮตทริก” โดยยิงได้ทั้งเท้าซ้าย, เท้าขวา และลูกโหม่ง ไปแบบครบสูตรพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกสำหรับสถิตินี้ทันที

img-20150912-steven naismith-00


5. โอเล กุนนาร์ โซลชา
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-8 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1998-99)
ในฤดูกาล 1998-99 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 3 แชมป์ มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ เป็นปีเดียวกันกับที่กองหน้าตัวสำรองระดับตำนานของทีมอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชา ได้จารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นกัน
โดยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1999 ปีศาจแดงต้องบุกไปเยือนถิ่นของทีมเจ้าป่า ฟอเรสต์ และขณะที่ทีมเยือนนำอยู่ 1-4 เพชรฆาตหน้าทารกก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 72
จากนั้น โซลชา ก็ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที กดรวดเดียว 4 ประตู จนพาทีมจบเกมด้วยสกอร์มโหฬารถึง 1-8 พร้อมก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์อันสำคัญของพรีเมียร์ลีกทันที

Ole Gunnar Solskjaer


4. จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์
เชลซี 5-2 วูล์ฟแฮมตัน (2003-04)
วันที่ 27 มีนาคม 2004 นอกจากจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ อดีตศูนย์หน้าขวัญใจแฟนบอลพรีเมียร์ลีกอย่าง จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ แล้วยังเป็นวันที่เขาได้จารึกชื่อของตัวเองเอาไว้ในประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน
โดยวันนั้นเป็นการแข่งขันกันระหว่าง เชลซี กับ วูล์ฟแฮมตัน ซึ่ง ฮัสเซลแบงค์ ออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรองอยู่บนม้านั่งก่อนจะได้ลงมาสัมผัสฟลอร์หญ้าในนาทีที่ 60
จากนั้นเขาก็เริ่มกดประตูให้ตัวเองได้ในนาทีที่ 70 ตามด้วยเม็ดสองและสามในนาทีที่ 87 กับ 90 แถมยังเป็นการยิงด้วย เท้าซ้าย, เท้าขวา และลูกโหม่ง ที่เรียกกันว่า เพอร์เฟ็คแฮตทริก อีกด้วย
ฉะนั้นจึงถือว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือของขวัญวันเกิดชิ้นเยี่ยมที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้



3. โรเบิร์ต เอิร์นชอว์
ชาร์ลตัน แอธเลติก 1-4 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (2004-05)
หลังจากที่ ฮัสเซลแบงค์ จัดการทำแฮตทริกในฐานะตัวสำรองได้อีกเพียงหนึ่งปี ก็มีนักเตะอีกหนึ่งคนสามารถเพิ่มชื่อเอาไว้ในประวัติศาสตร์หน้าเดียวกันได้สำเร็จ ชื่อของเขาก็คือ โรเบิร์ต เอิร์น ชอว์ จากทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน นั่นเอง
โดยคืนวันที่ 19 มีนาคม 2005 ชาร์ลตัน แอธเลติก ที่ได้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของคู่แข่งอย่าง เดอะ แบ็คกีส์ ไม่เคยสังหรณ์ใจมาก่อนว่าผู้มาเยือนของพวกเขาจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้
โดยขณะที่เกมยังเสมอกันอยู่ 1-1 จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โรเบิร์ต เอิร์นชอว์ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมา และเขาก็ซัลโวประตูไปได้ 2 ลูกจากโอเพ่นเพลย์ และอีกหนึ่งคือการสังหารจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนั่นเอง

img-20150913-column-3


2. เอมมานูเอล อเดบายอร์ดาร์บี เคาน์ตี 2-6 อาร์เซนอล (2007-08)
ฤดูกาลที่สามสำหรับสไตรเกอร์ชาวโตโกอย่าง อเดบายอร์ กับ อาร์เซนอล เขาก็ได้สร้างประวัติศาตร์ให้กับตัวเองบนเวทีพรีเมียร์ลีกสำเร็จ โดยเป็นการทำแฮตทริกในฐานะตัวสำรองในเกมบุกไปเยือน ดาร์บี เคาน์ตี
โดยดาวยิงร่างโย่งถูก อาร์เซน เวนเกอร์ ส่งลงสนามมาในช่วงพักครึ่ง แล้วเขาก็ใช้เวลาอีกไม่นานเพื่อเบิกประตูแรกให้ตัวเองได้สำเร็จ ก่อนจะกดเพิ่มอีก 2 ในช่วงสิบนาทีสุดท้าย ส่งให้ทีมบุกมาหักเขาแกะได้ด้วยสกอร์ 6-2
แถมในซีซั่นนั้น บายอร์ ยังกดประตูให้ทีมปืนใหญ่ได้มากถึง 30 ลูกอีกด้วย ถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของเขาเลยก็ว่าได้

img-20150913-emmanuel adebayor


1. โรเมลู ลูกากู
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 5-5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2012-13)
ในฤดูกาล 2012-13 ขณะที่ ดาวยิงทีมชาติเบลเยียมยังมีชื่อเป็นผู้เล่นของ เชลซี อยู่ เขาถูกส่งไปให้ทีมกลางตารางอย่าง เวสต์บรอมฯ ยืมใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
ซึ่งในปีนั้น ลูกากู ที่มีอายุเพียง 20 ปี ก็สามารถยิงได้ทั้งหมด 17 ประตูจากทุกรายการ และ 3 ลูกจากในนั้นก็คือการทำแฮตทริกที่เขาต้องภาคภูมิใจ
เพราะในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ต้นสังกัดชั่วคราวได้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนทีมที่ได้แชมป์ไปแล้วอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลูกากู สามารถทำแฮตทริกได้จากการลงมาเป็นตัวสำรอง แถมยังช่วยให้ทีมไล่บี้ตามตีเสมอคู่แข่งได้อย่างสุดมันจนเกมจบลงด้วยสกอร์ 5-5 อีกด้วย

img-20150913-romelu lukaku

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น