วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

“เชลซี” ไม่ได้มีปัญหาแค่เกมรับ!

Scoop : “เชลซี” ไม่ได้มีปัญหาแค่เกมรับ!
เมื่อวานนี้เกมที่กูดิสัน ปาร์ค ระหว่างทอฟฟี่ “เอฟเวอร์ตัน” กับรถบัส “เชลซี” จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน 3 - 1 

ส่งผลให้ลูกทีมของ “โจเซ่ มูรินโญ่” แพ้เป็นนัดที่ 3 ของฤดูกาลแถมกลายเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดในลีกตอนนี้ถึง 12 ประตูด้วยกัน

นี้ถ้าไม่ได้บอกชื่อทีมหรือรู้ว่าเป็นแชมป์เก่าก็ฟอร์มทีมตกชั้นชัดๆ แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าทีมกำลังมี “ปัญหา” และใหญ่ด้วย

เอาแค่ไปนั่งดูเกมเมื่อวานเกมเดียว ก็พอมองภาพเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมจากเกาะอังกฤษ ที่เพิ่งได้รับการยกย่องว่าเล่นแบบ “รถบัสขวางประตู” เกมรับเหนียวแน่นอนมากๆ

ก่อนอื่นเลยถ้าแฟนสิงห์ทั้งหลายรู้ว่าทีมจะแพ้แบบนี้คงไม่อยากให้ “โมฮาเหม็ด เบซิซ” เจ็บตั้งแต่นาทีที่ 9 เพราะคนที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทนคือ “สตีเฟ่น เนย์สมิธ” ที่ดันลงมาเป็นฮีโร่ยิงคนเดียวเดียว 3 ประตู ให้กับขุนพลทอฟฟี่

แต่ภาพกว้างจากการเจ็บของ “เบซิซ” ทำให้ “โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ” กุนซือเจ้าบ้านเปลี่ยนแผนการเล่นจาก 4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1 เพื่อให้อิสระกับ “เนย์สมิธ” ในการเล่นเกมรุกมากขึ้น

โดยรูปแบบการบุกของเจ้าบ้านถ้าไม่โยนยาวให้ “โรเมลู ลูคาคู” กองหน้าประเภทเอเลี่ยน ถึกทนจากริมเส้น กลางสนามหรือแทงบอลจากแผงมิดฟิลด์ ก็ให้บรรดามิดฟิลด์ที่ยืนอยู่ต่ำกว่าส่องไกลมันเลย 

ซึ่งมีหลายจังหวะที่ทีมเยือนถูกยิงไกลจน “อัสเมียร์ เบโกวิช” ต้องออกแรงเซฟหลายหน

ทางด้านเชลซีมาด้วยตัวผู้เล่นก็ชุดใหญ่เหมือนเดิมยกเว้นผู้รักษาประตู “อัสเมียร์ เบโกวิช” ที่เป็นตัวสำรองเนื่องจาก “ติโบต์ กูร์กตัวส์” เจ็บยาว

นอกนั้นกองหน้าตัวเป้าเป็น “ดิเอโก้ คอสต้า” มิดฟิลด์ตัวรุก 3 คนประกอบไปด้วย เปโดร โรดริเกซ ,เชส ฟาเบรกาส และ เอด็อง อาซาร์ มิดฟิลด์ตัวรับมี จอห์น โอบี มิเกล กับ เนมานย่า มาติช

ในขณะที่เกมรับมี เคิร์ต ซูม่า กับ จอห์น เทอร์รี่ เป็นคู่เซ็นเตอร์และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า เป็นแบ็ก 

อย่างที่เคยเขียนไปว่าเกมรับของทีมคือปัญหาใหญ่ก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งดูเกมนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่ากัปตันเจทีคือจุดอ่อนในเกมรับ 

ไม่ว่าจะเป็นความเชื่องช้า การเข้าบอลที่รู้จังหวะแต่เข้าไม่ทัน หรือการประกบตัวที่ตามเบียดแนวรุกของคู่แข่งไม่ทัน 

ส่วน “ซูม่า” ก็ยังไม่เก๋าพอที่จะประคองทีมในช่วงที่สภาพร่างกายของเทอร์รี่ถดถอยและฟอร์มตก

นอกจากบรรดากองหลังที่สุนัขส่ายหัวแล้ว ยังมีบรรดามิดฟิลด์ตัวรับอย่าง โอบี มิเกล กับ มาติช ที่ไม่สามารถหยุดการขับเคลื่อนเกมรุกของคู่แข่งได้เต็มที่จนเปิดช่องให้ถูกลักไก่ยิงไกลหลายหนจน โอบี มิเกล ถูกเปลี่ยนตัวออกไปตั้งแต่ต้นครึ่งหลังให้เด็กลงมาเล่นแทน 

แต่ก็โทษเป็นความผิดของมิดฟิลด์ตัวรับไม่ได้ซะทีเดียว เพราะมีกันอยู่แค่ 2 คน ตามระบบทีม

และบรรดามิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง เปโดร, ฟาเบรกาส และ อาซาร์ ที่อาจจะลงมาช่วยเกมรับบ้างแต่ต้องอย่าลืมธรรมชาติของทั้งสามคน ว่าเป็นนักเตะที่ถนัดเกมรุกมากกว่า แถมเกมรุกก็ยังทำได้ไม่ดี 

โดยเฉพาะ อาซาร์ ที่ฟอร์มตกฮวบฮาบชัดเจนและ เปโดร ที่ยังอยู่ในช่วงปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ

ขณะที่กองหน้า ดิเอโก้ คอสต้า มีโอกาสพอสมควรแต่ทำไม่ได้ มีหลายครั้งที่แตะบอลยาวไปหรือแต่งบอลมากจนเสียโอกาส

บวกกับบรรดามิดฟิลด์เกมรุกที่มีปัญหาไม่สามารถสนับสนุนเวลาขึ้นเกมรุกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็เลยไม่มีประตู

ผลการแข่งขันเลยออกมาเป็นแบบนี้ แม้สถิติหลังเกมจะครองบอลมากกว่า แต่ก็ครองบอลแบบไม่มีประโยชน์ แถมโอกาสยิงประตูพอๆ กัน ทางเอฟเวอร์ตันไม่ได้เป็นรองเลย

สุดท้ายเกือบลืม โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของทีมเห็นปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลที่เสมอ สวอนซี 2-2 แพ้ คริสตัล พาเลซ นัดที่แล้ว 1-2 แต่ก็ไม่ทำอะไรเลยหรือทำแล้วไม่ได้ผล นั่นคือปัญหาใหญ่ที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้น “เชลซี” ไม่ได้มีปัญหาแค่เกมรับ แต่มีปัญหาทั้งทีมไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันผู้จัดการทีม!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น