
สำหรับประเทศไทยเวทีการประกวด นางสาวไทย (Miss Thailand) ถือเป็นการประกวดนางงามเวทีแรกของประเทศ โดยในยุคแรกจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมงานฉลองรัฐธรรมนูญ ต่อมาจัดขึ้นเพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนสาวไทย ไปประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe) และในปัจจุบันจัดขึ้นเพื่อให้เป็นทูตวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
ปัจจุบันมีเวทีการประกวดหลายเวที ให้สาว ๆ ได้ตามล่าหาความฝันกัน แต่เวทีที่ดูจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นที่สุด เห็นจะเป็นเวทีดังต่อไปนี้
– นางสาวไทย (Miss Thailand) การประกวดนางสาวไทย จัดครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยใช้ชื่อว่า “นางสาวสยาม” รัฐบาลได้จัดขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ภายในพระราชอุทยานสราญรมย์ ซึ่งเป็นสโมสรคณะราษฎร ในปี พ.ศ. 2477 เป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญเป็นปีที่สอง แต่เริ่มจัดการประกวดนางสาวสยามเป็นปีแรก
– มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (Miss Universe Thailand) เป็นชื่อของการประกวดนางงามในประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยใช้ชื่อว่ามิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และมีสุรางค์ เปรมปรีดิ์ เป็นผู้อำนวยการประกวด เพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe)
– มิสไทยแลนด์เวิลด์ (Miss Thailand World) เป็นชื่อของเวทีการประกวดนางงามในประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าประกวดนางงามโลก (Miss World) จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน
เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อผู้ชนะการประกวดในแต่ละเวทีมักจะมีเรื่องดราม่าหลังได้รับตำแหน่ง เหมือนกับเป็นของคู่กันไปแล้ว เกิดการแฉขุดคุ้ยเรื่องในอดีตตามมาเป็นขบวนยาวเหมือนหางว่าว จริงบ้างไม่จริง หากเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง ฉาวเกินจะรับได้สุดท้ายสิ่งที่พวกเธอต้องทำคือสละมงกุฎ!
เรามาย้อนดูกันว่า นางงามคนไหนที่ต้องมาเสียน้ำตาจำใจสละมงกันบ้าง

– เริ่มกันที่สาวคนแรก แองจี้ อัจฉรา แมคคาย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2005 เธอได้รับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็ต้องประกาศสละตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าติดเรียน และงานถ่ายแบบ แต่มีข่าวลือว่า เหตุผลหลักมาจากภาพหวิวกึ่งเปลือยที่เธอเคยไปถ่ายในนิตยสารเล่มหนึ่ง เรื่องไม่จบเมื่ออัจฉราแถลงข่าวว่าถูกบีบให้สละตำแหน่ง เนื่องจากผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ส่วนเรื่องภาพหวิวเธอได้ปฏิเสธว่าเป็นแค่คนหน้าเหมือนเท่านั้น

– สาวสวยคนต่อมาที่ต้องสละมงกุฎ และเป็นประเด็นสุดร้อนแรงคือ น้ำเพชร สุณัณณิการ์ หรือ เอมี่ น้ำเพชร อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 ทางกองประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้ออกมาประกาศว่า
น้ำเพชร ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุที่ต้องปลดน้ำเพชรเป็นเพราะ มีคนปล่อยข่าวฉาวว่าเธอ มีคนเลี้ยงดู เป็นเมียน้อย ทำตัวเป็นแม่เล้า จัดหาเด็กให้เสี่ย จากนั้นก็มีภาพหลุด สุดสยิว ของเธอปล่อยมาเรื่อย ๆ สุดท้ายทางกองประกวดก็สั่งปลดแบบฟ้าผ่า ซึ่งเธอยอมรับ ขอคืนตำแหน่ง และสายสะพายให้กองประกวด

– ร้อนแรงเป็นที่สุดเห็นจะเป็น น้องฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร ผู้ชนะการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 เธอถูกวิจารณ์อย่างหนักในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ทวิตคำหยาบ มีภาพหลุดขณะดูดบารากุ ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวได้ชี้แจงว่า แค่เป่าลูกโป่ง และถือแทนเพื่อนเท่านั้น
หลังจากเธอได้รับตำแหน่งไปเพียงไม่นานผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์น้องฝ้ายอย่างรุนแรง ทั้งเรื่องของรูปร่างที่ไม่ได้สัดส่วน เมื่อเปรียบเทียบกับรองอันดับหนึ่ง รวมถึงประเด็นเรื่องเด็กเส้น เนื่องจากเจ้าตัวเคยเป็นพิธีกรรายการสตรอเบอรี่ชีสเค้ก ทางช่อง 3 อีกทั้งยังเป็นดาราในสังกัดของช่องอีกด้วย
ดูจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากถึงขนาดที่มีการทำเพจรณรงค์ให้ตัดสิทธิ์การรับตำแหน่งของฝ้าย MUT 2014 และมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุผลที่ฝ้ายไม่ควรได้รับตำแหน่ง สุดท้ายฝ้ายก็ตัดสินใจแถลงสละตำแหน่ง โดยไม่ขอรับรางวัลใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากรับแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว
เป็นธรรมดาที่เราต้องทำความเข้าใจว่า หญิงสาวที่ได้รับตำแหน่งเหล่านั้นเธอคือหน้าตาของประเทศ เธอคือตัวแทนของหญิงไทยที่ต้องไปประกวดเวทีระดับโลก มันก็ไม่แปลกที่ทางกองประกวดจะต้องค้นหาหญิงสาวที่สมบรูณ์แบบ และมอบตำแหน่งให้สาวที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดในการไปประกวดเวทีโลก หากมีเรื่องฉาวเกินจะให้อภัยก็ต้องทำใจให้คนอื่นไปทำหน้าที่แทน…
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น